หลายคนอาจคิดว่า อาชีพนักบินต้องเริ่มจากการมีความฝันตั้งแต่เด็ก แต่จริง ๆ แล้วเส้นทางนี้เปิดกว้างกว่าที่คิดมาก โดยเฉพาะทุกวันนี้ ไม่ว่าคุณจะเรียนจบคณะอะไรมาก็สามารถ “เปลี่ยนเส้นทางชีวิต” เข้าสู่วงการการบินได้
จุดเริ่มต้นของผม
ย้อนกลับไปปี 1992 ตอนนั้นผมเพิ่งเรียนจบปริญญาตรี และกำลังเรียนต่อปริญญาโทด้านวิทยาศาสตร์อยู่ด้วย เพราะผมเองก็เป็นนักเรียนทุนวิทยาศาสตร์ ที่เส้นทางปกติจะต้องเรียนต่อจนถึงระดับปริญญาเอก แต่โชคชะตาก็เปิดประตูอีกบานให้ผม—การเปิดรับสมัครสอบชิงทุน นักบินฝึกหัดของบริษัทการบินไทย
ผมตัดสินใจลองสอบ และก็ “สอบได้” …เส้นทางชีวิตผมจึงเปลี่ยนจากนักวิทยาศาสตร์ที่กำลังจะเป็นนักวิจัย ไปสู่เส้นทางการบินที่ผมไม่เคยคิดฝันไว้มาก่อน
วันนี้ เมื่อมองย้อนกลับไป ผมเห็นว่าประตูแห่งอาชีพนักบินไม่ได้มีแค่ทางเดียว มันมีหลายเส้นทาง ขึ้นอยู่กับว่าเราจะเลือกเดินทางไหน และเตรียมตัวอย่างไร
เส้นทางที่ 1: Student Pilot
สำหรับผู้ที่ยังไม่มีพื้นฐานการบินมาก่อน สายการบินต่าง ๆ มักเปิดรับสมัครในตำแหน่ง Student Pilot อยู่เป็นระยะ ๆ
เส้นทางนี้คือ
- จบปริญญาตรีสาขาใดก็ได้
- สมัครเข้าคัดเลือกกับสายการบินที่ประกาศรับ
- หากผ่านการสอบคัดเลือก บริษัทจะส่งตัวไปฝึกที่โรงเรียนการบินซึ่งมีข้อตกลงกับบริษัท
การฝึกนั้นจะค่อย ๆ ไล่ตามขั้นตอน จนกระทั่งได้ ใบอนุญาตนักบินพาณิชย์ตรี (CPL: Commercial Pilot License) จากนั้นจึงจะถูกบรรจุเป็นนักบินของสายการบินต้นสังกัด และเข้ารับการฝึกตามมาตรฐานของสายการบินต่อไป
สิ่งที่หลายคนอาจยังไม่รู้คือ แต่ละสายการบินจะมี “สัญญาผูกพัน” ไม่เหมือนกัน บางแห่งกำหนดให้ต้องทำงานไม่น้อยกว่า 7–10 ปีหลังเรียนจบ บางแห่งถ้าลาออกก่อนกำหนดก็ต้องคืนค่าใช้จ่ายที่บริษัทออกให้ หรือบางแห่งเลือกใช้วิธีหักจากเงินเดือนรายเดือนแทน
เส้นทางที่ 2: Qualified Pilot
อีกเส้นทางหนึ่งคือการเป็น Qualified Pilot หมายถึงผู้ที่
- เรียนการบินมาก่อน ไม่ว่าจะเรียนจากมหาวิทยาลัยที่มีหลักสูตรนักบินพาณิชย์ หรือจ่ายเงินเรียนเองที่โรงเรียนการบิน
- ผ่านการสอบและสะสมชั่วโมงบินครบตามเกณฑ์
- มีใบอนุญาต CPL อยู่ในมือแล้ว
Qualified Pilot สามารถสมัครเข้ากับสายการบินได้เลย โดยทั่วไปสายการบินจะเปิดรับปีละ 1 ครั้ง (บางช่วงที่ตลาดการบินโตเร็วก็เปิดมากกว่าหนึ่งครั้งต่อปี)
ในขั้นตอนการรับสมัครจะมีศัพท์เฉพาะที่สำคัญอยู่สองคำ คือ
- Type Rating → หมายถึงคุณมีประสบการณ์การบินในเครื่องบินแบบที่สายการบินใช้งานอยู่แล้ว เช่น เคยบิน Airbus A320 มาก่อน
- Non Type Rating → หมายถึงคุณยังไม่เคยบินเครื่องบินแบบนั้น ต้องเข้ารับการฝึกเพิ่มเติมตั้งแต่ต้น
แม้จะเป็น Qualified Pilot อยู่แล้ว แต่เมื่อย้ายสายการบินก็ยังต้องเข้าฝึกตามมาตรฐานของบริษัทใหม่เสมอ
ยกตัวอย่างเช่น นักบินที่บิน A320 อยู่แล้วกับสายการบิน A หากจะย้ายไปสายการบิน B ที่ใช้ A320 เช่นกัน ก็ยังต้องฝึกซ้ำกับสายการบินใหม่ เพียงแต่ใช้เวลาสั้นกว่าคนที่ไม่เคยบินมาก่อน
ประสบการณ์ย้ายสายการบิน
การย้ายสายการบินไม่ใช่เรื่องแปลกอีกต่อไป ในรอบ 5–10 ปีที่ผ่านมามีการย้ายกันบ่อยมาก โดยเฉพาะนักบินไทยที่ไปทำงานในตะวันออกกลาง เช่น กาตาร์ เอมิเรตส์ หรือไปยังประเทศเพื่อนบ้านในเอเชีย เช่น จีน เวียดนาม หรือไต้หวัน
สาเหตุสำคัญเพราะ “ความต้องการนักบินทั่วโลกยังสูงมาก” และนักบินไทยก็มีชื่อเสียงด้านฝีมือและวินัย ทำให้ได้รับการยอมรับในตลาดต่างประเทศ
ความต้องการนักบินในอนาคต
ตามการประเมินของ Boeing ช่วงปี 2014–2033 โลกจะต้องการนักบินใหม่ถึง 533,000 คน และภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิกจะต้องการมากที่สุดถึง 216,000 คน คิดเป็น 41% ของความต้องการทั้งหมด
นั่นหมายความว่า อาชีพนักบินยังคงเป็นอาชีพที่มีอนาคต และมีโอกาสเปิดกว้างสำหรับคนรุ่นใหม่เสมอ
มุมมองของผม
เมื่อเทียบกับสมัยที่ผมเข้าสู่วงการในปี 1992 วันนี้เส้นทางการเป็นนักบินมีทางเลือกมากกว่าเดิมหลายเท่า
- คุณไม่จำเป็นต้องเป็นนักเรียนทุนของสายการบินเหมือนรุ่นผม
- คุณสามารถเลือกเรียนในมหาวิทยาลัยที่มีหลักสูตรนักบินพาณิชย์
- หรือแม้แต่ลงทุนเรียนเองในโรงเรียนการบินที่ได้รับการรับรอง
สิ่งสำคัญที่สุดคือ ความมุ่งมั่น และ การเตรียมตัวให้พร้อม เพราะเมื่อได้ก้าวเข้ามาในเส้นทางนี้แล้ว คุณจะค้นพบว่าการบินไม่ใช่เพียงแค่อาชีพ แต่มันคือวิถีชีวิต และคือโลกอีกใบที่เต็มไปด้วยความท้าทายและโอกาส
✦✦✦
Leave a Reply